fbq('track', 'ViewContent');

Viewing entries tagged
แว็กซ์

ศึกประลองยุทธ.. โพเมด vs แว๊กซ์ ใครดีกว่าใน 5ยก!!

Comment

ศึกประลองยุทธ.. โพเมด vs แว๊กซ์ ใครดีกว่าใน 5ยก!!

นี่คือ 2 ผลิตภัณฑ์แต่งผมชายสุดฮิตแห่งยุค แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่า ผลิตภัณฑ์ทั้ง2ต่างกันอย่างไร, อันไหนดีกว่า แล้วเราหล่ะควรใช้ผลิตภัณฑ์ตัวไหน? ทีมงานทัฟแอนด์ทัมเบิล ขออาสาจับเอาทั้ง2 ผลิตภัณฑ์มาชำแหละ ทั้งข้อดีข้อเสีย ประชันกันบนเวที ในกติกามวยสากล 5ยก มาดูซิว่าใครจะอยู่ใครจะไป เอ้าเสียงระฆังมา แป๊ง!!

ยกแรก: ความทันสมัย

โพเมดเป็นผลิตภัณฑ์ยุคโบราณ รุ่นคุณพ่อเรียกกันว่า น้ำมันใส่ผม ขณะที่แว๊กซ์เป็นผลิตภัณฑ์ยุคโมเดิน เมื่อก่อนทำด้วยขี้ผึ้งแท้ (Beeswax) ซึ่งล้างออกยากขิงๆ ตอนนี้ผสมสารอื่นทำให้ ล้างออกง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก..

ยกแรกหักปากกาเซียน ทั้งที่แว๊กซ์ซึ่งถือกำเนิดทีหลัง แต่วันนี้เทรนด์วินเทจมาแรงเหลือเกิน โดยเฉพาะหลังจากปี 2010 ที่ซีรี่ย์เรื่องดัง Mad Men ออกอากาศ ภาพยนต์ที่ย้อนยุคไปสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่2 โชว์ความเท่แบบคลาสสิคของหนุ่มโฆษณานิวยอร์ค ทำผมเนี๊ยบเรียบแปล้ ..ผู้ชายค่อนโลก จึงหันมาทำผมวินเทจอีกครั้ง ยกนี้เป็นของโพเมด ไปแบบไม่ยากเย็น

ความนิยมในโพเมดกลับมาฮิตระเบิดหลังจาก 40ปีที่แล้ว

ความนิยมในโพเมดกลับมาฮิตระเบิดหลังจาก 40ปีที่แล้ว


ยก 2: พลังยึดเกาะ

ยกนี้ขับเคี่ยวกันสูสีเพราะ ทั้งคู่นั้นทำได้ดีในแบบของตัวเอง แว๊กซ์ เป็น Texturizing Product (ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มวอลุ่ม, ความยุ่งให้เส้นผม) โพเมด เป็น Slicking Product (ผลิตภัณฑ์ที่สร้างความเรียบร้อย, เรียบอย่างมีทิศทางให้ทรงผม)

แว็กซ์ มีประสิทธิภาพในพลังยึดเกาะสูงกว่าโพเมด จึงเหมาะกับการทำผมแบบตั้งๆ (Spike) ผมจะโดยรวมจะดูยุ่งๆ ไม่เป็นธรรมชาติ คุณสมบัติ ด้านมากกว่า ..ขณะที่โพเมด มีพลังการยึดเกาะน้อยกว่า แต่สามารถคงรูปทรงผมได้ยาวนานมาก ว่ากันว่าใช้โพเมด ไม่สระผม หวีไปมายังอยู่ทรงหล่อแบบเดิมได้ 3วัน (แต่เราไม่สนับสนุนให้ทำเท่าไหร่นะ)

แว๊กซ์ เป็น Texturizing Product เหมาะกับทำผมยุ่ง.. โพเมดเหมาะกับทำผมเนี๊ยบ ลู่เรียบมีทิศทางที่ชัดเจน

แว๊กซ์ เป็น Texturizing Product เหมาะกับทำผมยุ่ง.. โพเมดเหมาะกับทำผมเนี๊ยบ ลู่เรียบมีทิศทางที่ชัดเจน

เพราะทั้ง2 ผลิตภัณฑ์มีดีกันคนละแบบ ยกนี้ให้เสมอ แบบกินกันไม่ลง..


ยก 3: ราคา

โพเมดคุณภาพใช้ได้ ราคาเริ่มต้นที่ราว 500บาท/กระปุก ขณะที่แว๊กซ์ญี่ปุ่นดีๆ ราคา 200-300บาท

โพเมดคุณภาพใช้ได้ ราคาเริ่มต้นที่ราว 500บาท/กระปุก ขณะที่แว๊กซ์ญี่ปุ่นดีๆ ราคา 200-300บาท

ในประเทศไทย ราคาโพเมด แพงกว่าแว๊กซ์ ชัดเจน เพราะส่วนใหญ่เป็นสินค้านำเข้าจากอเมริกา.. แว๊กซ์ผลิตที่ไทย และเอเชียเป็นส่วนใหญ่เลยถูกกว่า และไม่เสียค่านำเข้า.. ยกนี้แว๊กซ์ชนะที่ราคา ไปแบบไม่ต้องลุ้น..


ยก 4: การจัดทรง+ความยืดหยุ่น

แว๊กซ์ เหมือนกาวตาช้าง ผมที่เซตด้วยแว๊กซ์จะไม่สามารถขยับไปไหนได้อีก ลมปลิว โดนน้ำเสียทรง คุณจะต้องใช้มือรีบตบให้กลับเป็นเหมือนเดิม หากบังคับจัดทรงใหม่หมด จะได้ทรงผมที่ยุ่งเหยิงกว่าเดิม

โพเมด เหมือนกาวซิลิโคน คือยึดเกาะได้แล้วยังสามารถยืดหยุ่นได้นิดหน่อย เดินๆระหว่างวัน เกิดอยากเซตผมใหม่ ก็ยังสามารถหวีไปทางนู้นนี้ ได้ตามสบาย.. บางรุ่นต้องอาศัยน้ำพรมนิดหน่อย ก็หวีได้เลย นอกจากนี้การใช้โพเมดเซตผม เก็บผมได้ดีดีกว่าแว๊กซ์ โดนเฉพาะพวกลูกผม ..ผมเส้นเล็กๆ สั้นๆ มักจะเด้งออกนอกแถว เมื่อใช้แว๊กซ์เซ็ต ทรงSlicked Back เมื่อมองในกระจกดีๆ คุณจะเห็นไรผมจำนวนมากเด้งออกนอกไลน์ที่คุณหวีไว้

วิธีการเซตต่างกันหลักๆ คือโพเมดใช้หวี เป็นหลัก แล้วใช้มือตบนิดๆตามอัธยาศัย.. แว๊กซ์ใช้มือขย้ำผม เสยไปมา..

วิธีการเซตต่างกันหลักๆ คือโพเมดใช้หวี เป็นหลัก แล้วใช้มือตบนิดๆตามอัธยาศัย.. แว๊กซ์ใช้มือขย้ำผม เสยไปมา..

ยกนี้โพเมดเป็นฝ่ายชนะในแง่ของ ประโยชน์ในด้าน Restylable จัดทรงไปมาระหว่างวันได้.. คิดภาพคุณต้องใส่หมวกกันน๊อคเดินทางระหว่างวัน ถอดแล้วยังสามารถหวีแต่งผมให้กลับไปอย่างเดิมได้.. ถ้าเป็นแว็กซ์ล่ะ เหนื่อยคับ


ยก 5: สไตล์

สไตล์การทำผมจะบ่งบอกว่า คุณควรใช้ผลิตภัณฑ์ไหน.. ด้านซ้ายคือผมที่แต่งด้วยโพเมด ด้านขวาผมเซตจากแว๊กซ์

รูปซ้าย--> โพเมด เนี๊ยบ รูปขวา--> ตั้ง

รูปซ้าย--> โพเมด เนี๊ยบ รูปขวา--> ตั้ง

คุณเลือกรูปขวา --> คุณเป็นชายสายแว็กซ์ เน้นเซตตั้งสูงๆ ทำผมยุ่งๆให้มีวอลุ่มไว้ก่อน มีเอาผมลงมาปิดหน้าบ้าง เหมือนอำพรางหน้าผากยังงัยอย่างงั้น ..หนุ่มเอเชียส่วนมากเป็นสายนี้

คุณเลือกรูปซ้าย --> คุณเป็นสายโพเมด เน้นเซตผมคุณให้เรียบเท่ย้อนยุค ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับ การทำผมเรียบลู่ (Slicked-Back), กระบังหวีขึ้น (Quiff), ทรงผมคลาสสิค Pompadour เหมือน David Beckham ที่พิเศษกว่าเจล และแว๊กซ์ คือโพเมดไม่แข็งในอากาศ ทำให้ผมไม่ชี้เด่ หนุ่มอเมริกาส่วนมาก เป็นสายโพเมด คือผมด้านข้างสั้น โชว์โครงหน้าหล่อ แสดงถึงความมั่นใจ และบุคคลิกภาพแบบเป๊ะเว่อร์ (Well-organized)

เนื่องจากสไตล์เป็นความชอบส่วนบุคคล ตัดสินกันไม่ได้ ยกสุดท้ายทีมงานให้เสมอกันไปอีกข้อ


สรุปคะแนน 5 ยก

รวมคะแนนทั้ง5ยก โพเมดชนะแว๊กซ์ ด้วยคะแนนเอกฉันท์ 5-2 คะแนน

ฝ่ายที่คุณเชียร์ชนะรึปล่าว ไม่เป็นไร อยากทำทรงไหน สายแว๊กซ์ หรือ โพเมดทำเลยครับ

เอาให้เหมาะกับเรา แล้วชนะใจเค้า ก็พอ!!!


Written by:

Lory Pongpol

Source:

Images: Pinterest & Google

 

Comment

เคลียร์ซะที.. เจล, แว๊กซ์ และ โพเมด ต่างกันอย่างไร?

2 Comments

เคลียร์ซะที.. เจล, แว๊กซ์ และ โพเมด ต่างกันอย่างไร?

เคยไหม..มองดูผลิตภัณฑ์แต่งผมที่วางเรียงเป็นตับ บนชั้นวางในห้าง แต่ก็ได้แต่อ้างว้าง เพราะไม่รู้ว่าจะซื้ออะไร.. ไอ้นี่ แว๊กซ์แน่ๆ แต่มันเหมือนกะเจลรึปล่าว โพเมด คืออะไรมันเข้ากับผมอย่างเรามั้ย ได้เวลาไขข้อข้องใจกันตรงนี้ นี่คือความแตกต่างของทั้ง 3ผลิตภัณฑ์..

GEL

Based: แอลกอฮอล์

เรามาเริ่มกันที่เจล ลักษณะพิเศษคือ เจลโดยส่วนมากเนื้อจะใส, แสงทะลุปรุโปร่ง ล้างออกก็ง่าย นั่นคือความเข้มข้นของเนื้อเจล จะเบาบางกว่าทั้งแว๊กซ์ และ โพเมด ลักษณะพิเศษคือ เจลจะทิ้งความมันเงาไว้กับเส้นผม (Wet Look)

ที่ต่างจากแว๊กซ์ และ โพเมดอีกอย่างคือ เจลสามารถแห้งกังอยู่ในอากาศ นั่นอาจเป็นเพราะมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม หากซื้อเจล จึงควรเลือกเจลชนิดที่ไม่มีแอลกอฮอลผสมนะครับ มันจะช่วยให้เวลาเซตแล้วไม่เกิดขุยขาวๆ บนเส้นผม

n4hr_13636694771.jpg

ทรงผมแบบที่เหมาะกับเจล คือ ทรงผมแบบผมชี้ๆเป็นปอย (Spike-look) หรือ เซตผมตั้งไม่มากและเงาๆ หากใช้เจล ข้อแนะนำคือ ผมเส้นเล็กๆควรเลือกใช้ประเภท Light-Hold ผมเส้นใหญ่หน่อย หยักศกนิดๆก็ Strong-Hold ไปเลยครับ


ยี่ห้อแนะนำ: Got2Be, Jack Black (ไม่มีขายในไทยครับ --")

got2b-ultra-glued-invincible-styling-gel-278x278.jpg
1393950004168_jack-black-grooming-hair-products-gq-magazine-march-2014.jpg

WAX

Based: ขี้ผึ้ง

มาถึงผลิตภัณฑ์ยอดฮิตในหมู่หนุ่มๆไทย บ้างก็เรียกแว๊กซ์, เพสต์ หรือ เคลย์ คืออันเดียวกันหมดครับ ลักษณะเฉพาะตัวคือ ความเข้มข้นของแว๊กซ์ที่มากกว่าทั้งเจล และโพเมด เหมาะสำหรับคนที่ชอบเซตผมแบบแข็งพิเศษ

ขณะที่ข้อจำกัดของมันก็คือแว๊กซ์ ไม่มีความยืดหยุ่น ผมที่เซตไว้ได้แว๊กซ์จะเปลี่ยนทรงระหว่างวันได้ยาก และเมื่อใช้เพิ่มมันก็จะเหนียวและเซตกลับไปเป็นแบบเดิมได้ยาก 

90 เปอร์เซ็นต์ของแว๊กซ์ตามท้องตลาด จะเป็น Matte Finish คือเซตออกมาแบบไม่เงา มีเพียงบางยี่ห้อที่เพิ่มความเงาเข้าไปในตัวแว๊กซ์ (แต่ก็จะไม่เงาเต็มที่) ดังนั้นแว๊กซ์เหมาะคุณที่ชอบทำผมแบบยุ่งๆนิด ไม่เนี้ยบมาก


ยี่ห้อแนะนำ: Fellow Barber $24, UpperCut $17 (ราคาไทย 930 บาท )


POMADES

Based: น้ำมัน และ น้ำ

โพเมด คือผลิตภัณฑ์เวอร์ชั่นคลาสสิคของWax จินตนาการว่าโพเมดที่ดีจะทำให้ผมคุณเรียบเท่ย้อนยุคเหมือน พระเอกซีรี่ส์ Mad Men โพเมด ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับ การทำผมเรียบลู่ (Slicked-Back), กระบังหวีขึ้น (Quiff), ทรงผมคลาสสิค Pompadour อย่างเอลวิส หรือ Ducktail แบบมีผมปอยตงลงมาข้างหน้า ที่พิเศษกว่าเจล และแว๊กซ์ คือโพเมดไม่แข็งในอากาศ ทำให้ผมไม่ชี้เด่ แข็งอยู่ทรง และยังปรับแต่งได้ระหว่างวัน

โพเมดแบ่งได้เป็น 2 ชนิดหลักคือ Oil-Based และ Water-Based

Oil-Based Pomade ชื่อก็บอกแล้วว่าประกอบด้วย น้ำมันเป็นส่วนใหญ่ เดิมทีทำจากไขมันสัตว์ เพื่อให้ได้ความแข็งและเงางาม แต่ข้อเสียคือล้างออกยาก Water-Based Pomade เป็นโพเมดยุคใหม่ที่ทำจากส่วนประกอบที่ละลายน้ำได้ นั่นทำให้ล้างออกได้ง่าย และดีกับสุขภาพหนังศรีษะมากกว่า Oil-Based Pomade แต่ยังคงคุณสมบัติยึดเกาะไว้ได้ดีเหมือนเดิม มีทั้งแบบเงาและด้าน

 

ยี่ห้อแนะนำ: Tough & Tumble ลาว่า โพเมด แบรนด์ใหม่ล่าสุดจากเมืองบรู๊คลิน ราคา $20 (650 บาท) สนใจคลิ๊ก--> SHOP

 

สรุป

เราขอสรุปคีย์เวิร์ดให้จำง่ายๆ ท่องไว้ให้ขึ้นใจ อย่างละ 3 คำ ได้ว่า..

GEL: เบา-เงา-ชี้ !!

WAX: แข็ง-ด้าน-ยุ่ง !!

POMADE: ยึด-เรียบ-เนี้ยบ !!

ไม่ว่าจะใช้ผลิตภัณฑ์แต่งผมแบบไหน ไม่สำคัญครับ แค่เลือกให้เข้ากับสไตล์ตัวเอง แค่นั้นคุณเองก็จะดูดีมีสไตล์


Written by:

Lory Pongpol

Source:

http://www.pomades.com/pomades-gel-waxes.html

http://www.businessinsider.com/mens-hair-product-2014-11

http://www.onionbkk.com/media/catalog/product/


2 Comments