fbq('track', 'ViewContent');

Viewing entries tagged
Pomade

Work From Home Hair 5 ทรงผมชายมาแรงยุคโควิด ปี 2021 อยู่ที่ไหนใครๆก็ตัด

Comment

Work From Home Hair 5 ทรงผมชายมาแรงยุคโควิด ปี 2021 อยู่ที่ไหนใครๆก็ตัด

ก่อนจะลุยออกไปหาช่างตัดผมในยุค Covid 19 แบบนี้ มาทำการบ้านกันก่อนดีกว่าว่าทรงไหนกำลังมา ทรงไหนไม่ควรพลาด ทรงไหนตัดแล้วโคตรฮอต จะได้ไม่ไปนั่งงงในร้าน ทั้งหล่อและรอดจากโควิด! ลืมการตัดทรงเดิมซ้ำ ๆ เพื่อความเซฟไปก่อน เพราะวันนี้เราจะมาบอกทรงผมที่ผู้ชายทั่วโลกเค้ายืนยัน นั่งยัน นอนยันมาแล้วว่ารอดจริง หน้าสไตล์ไหนก็เอาอยู่ ตัดแล้วดูดีขึ้นล้านเท่า

  1. ทรงบัซคัท (Buzz Cut)

ทรงผมแบดบอยที่สาวๆเห็นเป็นเข่าอ่อน พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าแพ้ทาง อย่างทรงบัซคัทที่ โต้ง ทูพี ตัดยืนหนึ่งมาหลายปีแต่ก็ไม่ดูตกเทรนด์ สาวๆคนไหนเห็นเป็นต้องกรี๊ดแย่งกันเป็นเลดี้ปราง เป็นทรงที่ใช้หวีรองตัดปัตตาเลี่ยนทั่วศีรษะตั้งแต่แบบกลางไปถึงต่ำสุด ให้ลุคสะอาด เฉียบคม แบบแบดบอย เหมาะกับสายตื่นยากที่ไม่ชอบเซ็ตผม แต่ยังรักความสะอาด ตื่นมาก็กดเข้าซูมพร้อมประชุมเลย

Buzz-Cut.jpg

2. รองทรงสูง (Textured Crop)

T&T_Amazon+Photojpg-80+copy.jpg

ทรงที่มาแรงมากกกกกกหลังจาก Peaky Blinder ซีซั่น 4 ปล่อย เรียกได้ว่าเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ทั่วโลก คนแห่ไปตัดตามกันอย่างบ้าคลั่ง เป็นการตัดสั้นสุดด้านข้างและด้านหลังด้วยหัวรองตัดของปัตตาเลี่ยนเบอร์ 1 หรือ 2 เหลือด้านบนไว้ยาวๆเพื่อเซ็ตให้ดูมีวอลลุ่ม ทรงนี้ต้องเซ็ตด้วยโพเมดสูตรด้าน หรือ ดำด้านเพื่อให้ผมเป็นทรงที่อยากได้ และอยู่ได้นาน เหงื่อออกก็ไม่พังระหว่างวัน ลุคนี้เป็นลุคที่ต้องปัดผมหน้าม้าไปข้างใดข้างหนึ่ง หรือปล่อยไว้เซอร์ๆด้วยการใช้โพเมดจัดให้ผมดูยุ่งๆเพื่อเพิ่มเลเยอร์และเท็กซ์เจอร์ เหมาะกับสายบอสใหญ่ หนุ่มซีอีโอ หนุ่มออฟฟิศ หรือบาริสต้าที่มีสไตล์ความชิคอยู่ในสายเลือด ชอบการเซ็ตผมแบบปังๆโชว์ความแมนทุกวันในการทำงาน

3. ทรงแอฟโฟร่แบบสั้น (Short Afro)

ทรงแอฟโฟร่สั้นให้ฟีลลิ่งนักรัก สายฮิป ที่พร้อมยิงมุขให้สาวๆหัวเราะ ยกตัวอย่าง เช่น หนุ่มบรูโน่ มาส์ หรือ ดอนัลด์ โกลเวอร์ นักธุรกิจรวยล้นฟ้าที่พร้อมจะเปลี่ยนทุกอย่างให้เป็นเงิน บอกเลยว่าตัดทรงนี้ไปไหนในไทยก็เด่น เพราะเป็นทรงที่คนไทยไม่กล้าตัดแต่บอกเลยว่าเมืองนอกฮิตไม่หยุดฉุดไม่อยู่ ไปไหนใคร ๆ ก็ตัด ไม่ได้เป็นทรงมั่วๆ หัวยุ่งๆ ที่ทำได้ง่ายๆ นะบอกก่อน ต้องไว้ผมยาวพอให้ดัดติดหนังหัวได้เท่านั้น จะหล่อทั้งทีต้องมีความพยายามกันนิดนึง

Short-Afro-copy.jpg

4. ทรงชอปปี้ครูว์คัต (Choppy Crew Cut)

บอกเลยว่าทรงนี้ใครตัดก็กลายเป็นเน็ตไอดอลเมกา หล่ออินเตอร์ไม่ไหว ยุคไหนก็ไม่มีเอาท์ ยืนยันด้วยเสียงกรี๊ดจากสาว ๆ ทั่วทุกมุมโลกเพราะเป็นทรงที่ เดวิด เบคแฮม และคริส อีแวนส์ ตัดตลอดดดด… บอกช่างเลยว่าตัดด้านหลังกับด้านข้างครึ่งนิ้ว ไล่ความยาวขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ไม่ต้องเกิน 2 นิ้ว จากนั้นค่อยตัดข้างบนแบบไม่ต้องสั้นมาก หรือจะเพิ่มเท็กซ์เจอร์ด้วยการใช้โพเมดสูตรเงาในวันที่อยากหล่อจนสาว ๆ ละลาย

Choppy-Crew-Cut.jpg

5. ทรงสลิคแบค (Slick Back)

เป็นทรงกันตายที่อยากให้ทุกคนลองดูสักครั้ง หล่อง่าย ๆ แค่หยิบโพเมดขึ้นมาปาดทีเดียวอยู่ หวีเรียบๆด้วยหวีเหล็กที่หนักพอประมาณก็จบ โคตรง่าย ไม่ต้องมีหน้าขั้นเทพก็เกิดได้ด้วยทรงนี้ เป็นการตัดผมข้าง ๆ สั้น เหลือด้านบนไว้ให้ยาวที่สุด แล้วไล่ระดับความสั้นลงมาเรื่อยๆ ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึง แบรด พิตต์ จัสติน บีเบอร์ และจัสติน ทิมเบอร์เลค เพราะเป็นทรงประจำตัวของพวกเค้าเหล้านั้น เอาอยู่ทุกสถานการณ์ จะ WFH ออกงาน หรือออกเดทก็ปัง หล่อสะกด

Slicked-Back-Length.jpg

Written by: Nat Saranya

Source: apetogentleman.com


01+Matte+++Tough+&+Tumble.jpg

Comment

ถูกระเบียบวินเทจ.. ใช้โพเมด เซตผมอย่างถูกวิธี ใน6ขั้นตอน

Comment

ถูกระเบียบวินเทจ.. ใช้โพเมด เซตผมอย่างถูกวิธี ใน6ขั้นตอน

ทรงผมวินเทจชายไทยที่กำลังนิยมอยู่ในขณะนี้ ถูกเซตด้วยผลิตภัณฑ์แต่งผมอย่าง"โพเมด".. บางคนก็เซตพอเป็นบ้าง บางคนก็จำภาพดาราคนโปรดมาลองหวีตามดูงูๆปลาๆมั่งล่ะ วันนี้.. ทัฟแอนด์ทัมเบิล ขอนำเสนอตำราการเซตผมวินเทจ(Pompadour) แบบถูกตามหลักการสากลง่ายๆ 6ขั้นตอน.. โดยอภิมหากูรูโพเมดโลกอย่าง เดอะพอมพ์ THE POMP.. เลื่อนไปชมด้านล่างเลย!


1| สกู๊ป หรือ ตักโพเมดขึ้นมา

ขั้นแรกของการเซตผม แน่นอน..คือเปิดฝาโพเมดออกมา แล้วควักซิฮะรอไร.. เทคนิคง่ายๆให้คุณควักโพเมดออกมาอย่างโปร ใช้นิ้วชี้ หรือ นิ้วกลาง จิ้มลงไปในกระปุกค้างไว้เฉยๆ ใช้มือข้างที่ถือก้นกระปุกไว้บิดหมุนกระปุกแทน จะได้สกู๊ปโพเมดติดนิ้วมาแบบสวยงาม (ขนาดราวๆครึ่งข้อนางก้อย).. แทนที่จะใช้นิ้วกวักออกมาจากกระปุกดื้อๆ ซึ่งทำให้เนื้อโพเมดที่เหลืออยู่ไม่งามตา ยังทำให้กะปริมาณที่จะใช้แต่ละครั้ง ไม่เท่ากันด้วย.. โดยปกติการเซตหนึ่งครั้ง จะใช้ประมาณ2-3สกู๊ป แล้วแต่ปริมาณเส้นผมมากน้อย ของผู้ใช้แต่ละคน


2| ถูให้ไวที่ฝ่ามือ

ขั้นตอนที่สอง เอาโพเมดที่ควักออกมา ถูเข้าด้วยกันด้วยฝ่ามืออรหันต์ 2ข้างประกบ ถูด้วยความเร็ว พอให้รู้สึกว่าโพเมดกระจายที่ฝ่ามืออย่าวทั่วถึง และมีความร้อนหน่อยๆ.. เป็นอันใช้ได้ 


Choose+Favorite+Pomade+Best+Peoples'+Choice+2015 (1)7.jpg

3| ละเลงให้ทั่วทุกเส้นผม

โพเมดอุ่นๆได้ที่แล้ว ก็จัดการใส่ขยี้ลงที่ผมเลย.. ตามหลักแล้วลักษณะผมที่เหมาะแก่การเซตที่สุด คือผมหมาดๆ เหมือนสระผมเสร็จแล้วทิ้งไว้ 5-10นาที ไม่ถึงกะเปียกชุ่มไรงั้น.. หรือ สามารถใช้น้ำช่วยพรมให้ความชุ่มชื่นกับผมแห้งๆ ก่อนใส่โพเมดที่ผม.. ให้มั่นใจว่าโดนเส้นผมทั่วถึงที่สุด.. หากต้องการเซตแบบผมวินเทจไม่เรียบแปล้ ปอมตั้งสูง งดใส่โพเมดลงที่โคนผมโดยตรง


4| ใช้หวีเสยผมทั้งหมดไปด้านหลัง

เสยผมคุณที่อุดมด้วยโพเมดแล้วไปด้านหลังให้หมด แบบไม่ต้องคิดหน้าคิดหลัง.. เลือกใช้หวีซี่ห่างหน่อย จะทำงานได้ง่ายยิ่งนัก


5| แบ่งแสก..ให้เป๊ะ

นี่คือขึ้นตอนรายละเอียดของการเซตผมวินเทจ ที่หลายคนมองข้ามไป การแบ่งร่องแสกให้ได้เส้นเป๊ะๆ จะทำให้ภาพรวมทรงผมคุณดูเพอร์เฟคกว่าชาวบ้าน.. เรียกได้ว่าเป็นเส้นบางๆกั้นระหว่าง มือเซตสมัครเล่น และมือโปรเลยทีเดียว.. มือโปรส่วนใหญ่ใช้ก้านหวี (ด้านตูด) ปลายแหลม แทงเข้าไปที่ตำแหน่งผมที่ต้องการทำแสก แล้วแบ่งผมออกเป็นซ้ายขวาอย่างปราณีต..


6| ยกปอมสูง-ต่ำ ตามความชอบ

ยกปอม(Pomp) หรือ กระบังด้านหน้าของผมวินเทจ.. ขึ้นด้วยการใช้หวีซี่ละเอียดหวีขึ้นเร็วๆ มืออีกข้างประคองด้านบน ที่ความสูงที่อยากให้กระบังตั้งขึ้น.. ความสูงของปอมเป็นตัวบ่งบอกสไตล์การเซตได้ดีที่สุด ควรคำนวนให้เหมาะกับรูปหน้าตัวเอง.. ชายเอเชียส่วนใหญ่ หรือ หนุ่มหน้าผากโหนก การทำปอมยกสูงจะทำให้รูปหน้าดูมีสันคมมากขึ้น.. เป็นอันเสร็จขั้นตอน

ภาพก่อน-หลังเซตผม ของTHE POMP กูรูวงการโพเมดโลก (สามารถดูวีดีโอฉบับเต็มที่นี่ )

ภาพก่อน-หลังเซตผม ของTHE POMP กูรูวงการโพเมดโลก (สามารถดูวีดีโอฉบับเต็มที่นี่ )


Written by:

Lory Pongpol

Source:

https://www.youtube.com/watch?v=wHLEG6a1sRI

http://www.the-pomp-official.com/home/2015/7/3/tough-tumble


Comment

ศึกประลองยุทธ.. โพเมด vs แว๊กซ์ ใครดีกว่าใน 5ยก!!

Comment

ศึกประลองยุทธ.. โพเมด vs แว๊กซ์ ใครดีกว่าใน 5ยก!!

นี่คือ 2 ผลิตภัณฑ์แต่งผมชายสุดฮิตแห่งยุค แต่หลายคนอาจยังสงสัยว่า ผลิตภัณฑ์ทั้ง2ต่างกันอย่างไร, อันไหนดีกว่า แล้วเราหล่ะควรใช้ผลิตภัณฑ์ตัวไหน? ทีมงานทัฟแอนด์ทัมเบิล ขออาสาจับเอาทั้ง2 ผลิตภัณฑ์มาชำแหละ ทั้งข้อดีข้อเสีย ประชันกันบนเวที ในกติกามวยสากล 5ยก มาดูซิว่าใครจะอยู่ใครจะไป เอ้าเสียงระฆังมา แป๊ง!!

ยกแรก: ความทันสมัย

โพเมดเป็นผลิตภัณฑ์ยุคโบราณ รุ่นคุณพ่อเรียกกันว่า น้ำมันใส่ผม ขณะที่แว๊กซ์เป็นผลิตภัณฑ์ยุคโมเดิน เมื่อก่อนทำด้วยขี้ผึ้งแท้ (Beeswax) ซึ่งล้างออกยากขิงๆ ตอนนี้ผสมสารอื่นทำให้ ล้างออกง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก..

ยกแรกหักปากกาเซียน ทั้งที่แว๊กซ์ซึ่งถือกำเนิดทีหลัง แต่วันนี้เทรนด์วินเทจมาแรงเหลือเกิน โดยเฉพาะหลังจากปี 2010 ที่ซีรี่ย์เรื่องดัง Mad Men ออกอากาศ ภาพยนต์ที่ย้อนยุคไปสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่2 โชว์ความเท่แบบคลาสสิคของหนุ่มโฆษณานิวยอร์ค ทำผมเนี๊ยบเรียบแปล้ ..ผู้ชายค่อนโลก จึงหันมาทำผมวินเทจอีกครั้ง ยกนี้เป็นของโพเมด ไปแบบไม่ยากเย็น

ความนิยมในโพเมดกลับมาฮิตระเบิดหลังจาก 40ปีที่แล้ว

ความนิยมในโพเมดกลับมาฮิตระเบิดหลังจาก 40ปีที่แล้ว


ยก 2: พลังยึดเกาะ

ยกนี้ขับเคี่ยวกันสูสีเพราะ ทั้งคู่นั้นทำได้ดีในแบบของตัวเอง แว๊กซ์ เป็น Texturizing Product (ผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มวอลุ่ม, ความยุ่งให้เส้นผม) โพเมด เป็น Slicking Product (ผลิตภัณฑ์ที่สร้างความเรียบร้อย, เรียบอย่างมีทิศทางให้ทรงผม)

แว็กซ์ มีประสิทธิภาพในพลังยึดเกาะสูงกว่าโพเมด จึงเหมาะกับการทำผมแบบตั้งๆ (Spike) ผมจะโดยรวมจะดูยุ่งๆ ไม่เป็นธรรมชาติ คุณสมบัติ ด้านมากกว่า ..ขณะที่โพเมด มีพลังการยึดเกาะน้อยกว่า แต่สามารถคงรูปทรงผมได้ยาวนานมาก ว่ากันว่าใช้โพเมด ไม่สระผม หวีไปมายังอยู่ทรงหล่อแบบเดิมได้ 3วัน (แต่เราไม่สนับสนุนให้ทำเท่าไหร่นะ)

แว๊กซ์ เป็น Texturizing Product เหมาะกับทำผมยุ่ง.. โพเมดเหมาะกับทำผมเนี๊ยบ ลู่เรียบมีทิศทางที่ชัดเจน

แว๊กซ์ เป็น Texturizing Product เหมาะกับทำผมยุ่ง.. โพเมดเหมาะกับทำผมเนี๊ยบ ลู่เรียบมีทิศทางที่ชัดเจน

เพราะทั้ง2 ผลิตภัณฑ์มีดีกันคนละแบบ ยกนี้ให้เสมอ แบบกินกันไม่ลง..


ยก 3: ราคา

โพเมดคุณภาพใช้ได้ ราคาเริ่มต้นที่ราว 500บาท/กระปุก ขณะที่แว๊กซ์ญี่ปุ่นดีๆ ราคา 200-300บาท

โพเมดคุณภาพใช้ได้ ราคาเริ่มต้นที่ราว 500บาท/กระปุก ขณะที่แว๊กซ์ญี่ปุ่นดีๆ ราคา 200-300บาท

ในประเทศไทย ราคาโพเมด แพงกว่าแว๊กซ์ ชัดเจน เพราะส่วนใหญ่เป็นสินค้านำเข้าจากอเมริกา.. แว๊กซ์ผลิตที่ไทย และเอเชียเป็นส่วนใหญ่เลยถูกกว่า และไม่เสียค่านำเข้า.. ยกนี้แว๊กซ์ชนะที่ราคา ไปแบบไม่ต้องลุ้น..


ยก 4: การจัดทรง+ความยืดหยุ่น

แว๊กซ์ เหมือนกาวตาช้าง ผมที่เซตด้วยแว๊กซ์จะไม่สามารถขยับไปไหนได้อีก ลมปลิว โดนน้ำเสียทรง คุณจะต้องใช้มือรีบตบให้กลับเป็นเหมือนเดิม หากบังคับจัดทรงใหม่หมด จะได้ทรงผมที่ยุ่งเหยิงกว่าเดิม

โพเมด เหมือนกาวซิลิโคน คือยึดเกาะได้แล้วยังสามารถยืดหยุ่นได้นิดหน่อย เดินๆระหว่างวัน เกิดอยากเซตผมใหม่ ก็ยังสามารถหวีไปทางนู้นนี้ ได้ตามสบาย.. บางรุ่นต้องอาศัยน้ำพรมนิดหน่อย ก็หวีได้เลย นอกจากนี้การใช้โพเมดเซตผม เก็บผมได้ดีดีกว่าแว๊กซ์ โดนเฉพาะพวกลูกผม ..ผมเส้นเล็กๆ สั้นๆ มักจะเด้งออกนอกแถว เมื่อใช้แว๊กซ์เซ็ต ทรงSlicked Back เมื่อมองในกระจกดีๆ คุณจะเห็นไรผมจำนวนมากเด้งออกนอกไลน์ที่คุณหวีไว้

วิธีการเซตต่างกันหลักๆ คือโพเมดใช้หวี เป็นหลัก แล้วใช้มือตบนิดๆตามอัธยาศัย.. แว๊กซ์ใช้มือขย้ำผม เสยไปมา..

วิธีการเซตต่างกันหลักๆ คือโพเมดใช้หวี เป็นหลัก แล้วใช้มือตบนิดๆตามอัธยาศัย.. แว๊กซ์ใช้มือขย้ำผม เสยไปมา..

ยกนี้โพเมดเป็นฝ่ายชนะในแง่ของ ประโยชน์ในด้าน Restylable จัดทรงไปมาระหว่างวันได้.. คิดภาพคุณต้องใส่หมวกกันน๊อคเดินทางระหว่างวัน ถอดแล้วยังสามารถหวีแต่งผมให้กลับไปอย่างเดิมได้.. ถ้าเป็นแว็กซ์ล่ะ เหนื่อยคับ


ยก 5: สไตล์

สไตล์การทำผมจะบ่งบอกว่า คุณควรใช้ผลิตภัณฑ์ไหน.. ด้านซ้ายคือผมที่แต่งด้วยโพเมด ด้านขวาผมเซตจากแว๊กซ์

รูปซ้าย--> โพเมด เนี๊ยบ รูปขวา--> ตั้ง

รูปซ้าย--> โพเมด เนี๊ยบ รูปขวา--> ตั้ง

คุณเลือกรูปขวา --> คุณเป็นชายสายแว็กซ์ เน้นเซตตั้งสูงๆ ทำผมยุ่งๆให้มีวอลุ่มไว้ก่อน มีเอาผมลงมาปิดหน้าบ้าง เหมือนอำพรางหน้าผากยังงัยอย่างงั้น ..หนุ่มเอเชียส่วนมากเป็นสายนี้

คุณเลือกรูปซ้าย --> คุณเป็นสายโพเมด เน้นเซตผมคุณให้เรียบเท่ย้อนยุค ถูกออกแบบมาให้เหมาะกับ การทำผมเรียบลู่ (Slicked-Back), กระบังหวีขึ้น (Quiff), ทรงผมคลาสสิค Pompadour เหมือน David Beckham ที่พิเศษกว่าเจล และแว๊กซ์ คือโพเมดไม่แข็งในอากาศ ทำให้ผมไม่ชี้เด่ หนุ่มอเมริกาส่วนมาก เป็นสายโพเมด คือผมด้านข้างสั้น โชว์โครงหน้าหล่อ แสดงถึงความมั่นใจ และบุคคลิกภาพแบบเป๊ะเว่อร์ (Well-organized)

เนื่องจากสไตล์เป็นความชอบส่วนบุคคล ตัดสินกันไม่ได้ ยกสุดท้ายทีมงานให้เสมอกันไปอีกข้อ


สรุปคะแนน 5 ยก

รวมคะแนนทั้ง5ยก โพเมดชนะแว๊กซ์ ด้วยคะแนนเอกฉันท์ 5-2 คะแนน

ฝ่ายที่คุณเชียร์ชนะรึปล่าว ไม่เป็นไร อยากทำทรงไหน สายแว๊กซ์ หรือ โพเมดทำเลยครับ

เอาให้เหมาะกับเรา แล้วชนะใจเค้า ก็พอ!!!


Written by:

Lory Pongpol

Source:

Images: Pinterest & Google

 

Comment